เรื่องราวของช้างน้ำตกเป็นข่าวครึกโครมตามหน้าหนังสือพิมพ์ของไทยครั้งแรก
เมื่อกลางปี 1996 (หลังนารีผล)
เมื่อมีผู้ได้ซากของช้างน้ำมาจากชาวกะเหรี่ยงที่ป่าชายแดนไทย-พม่า
โดยซากของช้างน้ำนี้ เป็นสิ่งที่มีลักษณะคล้ายช้าง
แต่มีขนาดเล็กจิ๋วจนสามารถวางบนฝ่ามือได้ เมื่อนำไปเอ็กซเรย์แล้ว
พบว่าภายในมีโครงกระดูกต่าง ๆ เหมือนช้างจริงไม่มีผิด
ซึ่งในเรื่องนี้ก็ได้มีหลายบุคคลออกมายืนยันว่า
ช้างน้ำเป็นสัตว์ที่อยู่ในป่าหิมพานต์มีอยู่จริง
หลังจากนั้นก็มีหลายคนอ้างว่ามีช้างน้ำครอบครอง รวมไปถึงพระภิกษุรูปหนึ่งที่อ้างว่าเคยเห็นช้างน้ำตัวเป็นๆ มาแล้วสองครั้งในรัฐกะเหรี่ยง อย่างไรก็ตาม ในภายหลังมีการตรวจสอบเอ็กซเรย์ซากช้างน้ำดูอีกทีพบว่าโครงร่างโดยรวมมี ลักษณะเหมือนสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมจำพวกกัดแทะที่เรียกว่า โรเดนท์ เช่น หนู กระรอก หรือบีเวอร์ โดยเฉพาะส่วนหัว บริเวณกรามล่าง ใต้งา จะเห็นชัดเจนเลยว่าฟันมีลักษณะเป็นซี่ มีฟันหน้าที่ยื่นยาวออกไป รวมถึงโครงกระดูกส่วนอื่นนั้นก็มีลักษณะแตกต่างจากของช้างโดยสิ้นเชิง คาดว่าน่าจะเป็นซากสัตว์จำพวกหนูแล้วไปต่อเติมงวงและเสียบงาเข้าไปภายหลัง